ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2552

กลุ่มที่ ๓ จิตตะ เรื่อง สุ จิ ปุ ริ รับฟัง ใส่ใจ สอบถาม บันทึก



สุ  จิ  ปุ  ริ   รับฟัง  ใส่ใจ   สอบถาม  บันทึก
                การศึกษา ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ  ในด้านประวัติศาสตร์ ด้านพุทธศาสตร์ ด้านเศรษฐศาสตร์ สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์  คณะพระธรรมทูตทั้งหลายได้เกิดแนวคิดและมุมมองที่หลากหลายมากขึ้น ได้รับฟังการบรรยายจากพระธรรมวิทยากร ผู้มีประสบการณ์ด้านข้อมูลและประสบการณ์ ทั้งในพระไตรปิฏกและเหตุการณ์ในปัจจุบัน ช่วงของการฟังการบรรยายแต่ละวันนั้น
โดยเริ่มการบรรยายตั้งแต่สถานที่ปรินิพพานที่เมืองกุสินารา  ที่พระพุทธองค์ทรงทอดร่างดับขันธ์เข้าสู่ปรินิพพานด้วยประวัติความสำคัญ ๆ หลายประการ ที่พระพุทธองค์ทรงเลือกสถานที่แห่งนี้ดับขันธปรินิพพาน  เพราะในอดีตนั้นมีพระพุทธเจ้าหลาย ๆ พระองค์ ที่เสด็จดับขันธปรินิพพานอยู่ที่เมืองนี้มาก่อน  จนมาถึงสมัยของพระพุทธองค์
เมืองกุสินาราในปัจจุบันถึงจะเป็นเมืองเล็ก  แต่ในอดีตนั้นเคยเป็นเมืองใหญ่และอุดมไปด้วยสรรพสิ่งต่างๆ จากการศึกษาในพระไตรปิฏก หรือพุทธประวัติ อนุพุทธประวัติ พุทธานุพุทธประวัติ และตำราอื่น ๆ มากมาย ก็ยังไม่สามารถสัมผัสได้อย่างลึกซึ้งถึงใจ  แต่เมื่อได้เดินทางมาศึกษายังดินแดนพุทธภูมิ  สถานที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้เคยใช้สถานที่แห่งนี้ประกาศพระศาสนา  และสามารถทำให้ประชาชนทุกระดับทุกศาสนาที่ยังไม่เคยเลื่อมใส ได้หันหน้าเข้ามาเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก
พระธรรมทูตไทยที่ได้มาศึกษาปฏิบัติธรรเชิงลึกได้ยินได้ฟังแล้ว  ทำให้มองย้อนไปถึงอดีตว่าพระพุทธองค์ทรงใช้ความวิริยะ  อุตสาหะ  อย่างแรงกล้าในการประกาศพระศาสนา
                ดังนั้นพระธรรมทูตไทยที่ได้มาศึกษาปฏิบัติธรรม ณ ดินแดนพุทธภูมิแห่งนี้ ได้สัมผัสกับสภาพเหตุการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เห็นสถานที่จริง ที่พระธรรมทูตไทยยังไม่เคยได้เห็นมาก่อน ความรู้สึกในใจของพระธรรมทูตจริง ๆ แล้ว อยากให้พระสงฆ์ไทยทุกรูปได้มีโอกาสมาสัมผัสบรรยากาศอย่างนี้บ้าง  จะได้เกิดสภาวธรรมจากการปฏิบัติจริง ไม่ใช่เพียงแค่ศึกษาจากตำราแค่นั้นยังไม่พอกับการออกไปเผยแผ่พระพุทธศาสนา  แต่จะเป็นไปได้ไหมว่าในประเทศไทยมีประชากร ๖๐ กว่าล้านคน  จะมีผู้มีจิตศรัทธามาสนับสนุนพระสงฆ์ไทยให้มาปฏิบัติธรรมเชิงลึกอย่างนี้อีกบ้าง เอาไว้ต่อฉบับหน้า สาธุ  สาธุ  สาธุ  


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น